สล็อตออนไลน์ รัฐบาล เตรียมดำเนินการสร้าง สะพานเกียกกาย ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากที่ได้มีมติเห็นชอบให้มีการผ่าน ร่าง พ.ร.ฎ. เวนคืนที่ดินใน กทม. สะพานเกียกกาย – วันนี้ (29 ก.ย. 2564) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท และแขวงจตุจักร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าวในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย เชื่อมต่อกับการสร้างและขยายถนน เพื่อแก้ปัญหาการจราจร
โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนให้ถูกต้องและชัดเจน ซึ่งที่ดินที่จะเวนคืนมีส่วนแคบที่สุด 50 เมตร และส่วนที่กว้างที่สุด 1,250 เมตร ลักษณะของโครงการเป็นการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกายตามแนวถนนทหาร
กรุงเทพมหานครพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พร้อมทั้งได้ปรับรูปแบบสะพานเกียกกายไม่ให้กระทบพื้นที่รัฐสภาแห่งใหม่ สะพานมีความยาว 320 เมตร 6 ช่องจราจร เชื่อมต่อฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมา กทม. ได้จัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่แล้วรวม 4 ครั้ง พร้อมจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในกรณีพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้โบราณสถาน แหล่งโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ หรืออุทยานประวัติศาสตร์ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ในระยะทาง 2 กิโลเมตรเรียบร้อยแล้ว เมื่อสะพานเกียกกายและถนนเชื่อมต่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับปริมาณการสัญจรที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่โดยรอบรัฐสถาแห่งใหม่ได้ประมาณ 1 แสนคันต่อวัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายเส้นทางคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนบน
ขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน 2 เดือน ลดกักตัวเข้าไทยเหลือ 7 วัน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ทาง ศบค. ได้มีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถึง 30 พ.ย.64 และผ่อนคลายมาตรการและอนุญาตให้เปิดกิจกรรม กิจการ การเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่จังหวัด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 เป็นต้นไป
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความห่วงใยประชาชน จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและ ศบค. ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย การปรับมาตราการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ปรับลดระยะเวลาการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร สำหรับผู้ทีมีเอกสารการฉีดวัคซีน ให้กักตัว 7 วัน สำหรับผู้ที่ไม่มีเอกสารการฉีดวัคซีน ให้กักตัว 10-14 วัน รองรับการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่จังหวัด
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล พร้อมกำชับการปฎิบัติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภารกิจตามพิธีการคนเข้าเมืองและตามมาตรการทางสาธารณสุข การปรับลดระยะเวลากักตัวของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเข้าพื้นที่นำร่องสำหรับการท่องเที่ยว ตามที่ ศคบ.ได้กำหนด รวมถึงภารกิจการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่
โดยให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานทหาร หน่วยงานสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รองรับภารกิจการเปิดพื้นที่นำร่องสำหรับการท่องเที่ยว พร้อมสนับสนุนกำลังเมื่อมีการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทุกพื้นที่ตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง พร้อมเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงต่างๆ อย่างเคร่งครัด
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่ออีกว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีความพร้อมสำหรับพิธีการตรวจคนเข้าเมือง คัดกรองการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามท่าอากาศยาน ด่านทางบก และด่านทางน้ำ พร้อมประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ ศบค. ได้กำหนด รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ในทุกจังหวัดที่จะทำการเปิดพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยว
อีกทั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับให้ทุกหน่วยในสังกัดให้เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจตามนโยบายรัฐบาลและ ศบค. สำหรับการเปิดพื้นที่นำร่องสำหรับการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่จังหวัด รวมถึงการออกตรวจสอบพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำแก่ประชาชน นักท่องเที่ยวในการปฏิบัติตาม ประกาศ ข้อกำหนด มาตราการ ของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อย่างถูกต้อง ยังคงมาตราการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ออกตรวจสอบ สถานประกอบการ สถานบันเทิง ร้านอาหารที่ลักลอบจำหน่ายสุรา จุดที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละพื้นที่คอยควบคุมกำกับการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด หากมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม. สล็อตออนไลน์